หลวงปู่แบน ธนากโร
…ไม่รู้จะไปนับเพื่อประโยชน์อะไร แล้วเราๆก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันหมด แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ยอมรับอันนี้เป็นสัจธรรม เป็นของจริง เท่าความเป็นจริง ทุกรูปทุกนาม สรุปแล้วไม่ว่าเราไม่ว่าเขาก็ต้องตกอยู่ในสภาพที่สูญ ในเมื่อยังหายใจอยู่ นับวันก็เสียไป ไม่หายใจ นับหรือไม่นับ ก็เท่ากัน
วันนี้มารมารบกวน มารมากวน ขันธมารก็ให้เป็นเรื่องของขันธ์ไป ไอ้มารที่มันเกิดจากไม่มีขันธ์ มารอันนี้เรียกว่ามารมีอยู่กับเรา พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ท่านกำจัดมารตัวนี้ แล้วเข้าถึงแดนสุขเกษม เข้าถึงโดยหลักการวิธีการใดๆ เอาหลักการวิธีการอันนั้นมาประกาศ ตามหลักการนั้นเรียกว่าพระศาสนา จึงว่าลมหายใจเข้าหายใจออกต้องมีสติระลึกถึงมากๆ เป็นการผูกเป็นการมัด ให้ความคิดความอ่านของเรานี่อยู่กับกองธรรม
กองธรรมก็คือ กว้างศอก ยาววา หนาคืบ (หมายถึงร่างกายสังขาร) ทุกคนมีกองธรรมด้วยกันทั้งนั้น และมีสิทธิที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์ ถ้าใช้ไม่เป็น เป็นโทษทั้งนั้น ไม่ว่าเด็กหญิงเด็กชาย ไม่ว่าวัยรุ่นหรือว่าวัยหนุ่มวัยสาววัยแก่ จะว่ายุคใหม่หรือยุคเก่าใช้ไม่ถูก เป็นโทษ ก็เป็นยังไง ก็คือเจ้าของนี่ไม่สำรวมรักษาใจ ปล่อยใจให้ไปตามกิเลสมารมันฉุดมันดึงมันลาก ผลออกมาก็มีแต่ไฟของกิเลสที่มันรุมร้อนมันเผา แล้วก็ไม่เลือกด้วย ทุกรายก็ไม่ยกเว้น แก่ก็ไม่ยกเว้น หนุ่มสาวเค้าก็ไม่ยกเว้น แม้แต่เด็กรู้จักความ เค้าก็ยังเริ่มฝึกเริ่มสอนให้แล้ว นี่คืออันตรายอันดับหนึ่งของสังคมโลก
โลกจะพ้นจากอันตรายต้องพากันกำจัดมารตัวนี้ อย่าให้มันมีคั่งค้างอยู่ในโลก แล้วสันติอันแท้จริงจะเกิดโดยทั่วถึงเลยทีเดียว คำว่าสำรวมธรรม ศีลแปลว่าสำรวม ศีลหมายความว่าการสำรวมใจ การสำรวมใจจึงเรียกว่าศีล ไม่สำรวมใจศีลไม่มี ไปวัดไม่มีการสำรวม บวชผ้าขาว ผ้าเหลือง ไม่มีความสำรวม ผ้ามันไม่เป็นศีลให้ดอก ถ้าผ้าเป็นศีลให้ได้ โรงงานผลิตนี่เยอะแยะไป ไม่ต้องไปรักษาศีลอยู่รุกขมูลร่มไม้ให้ยาก แต่ไม่เป็นอย่างนั้น
ความจริงนี่รักษาศีลต้องรักษาเรานี่เอง ไม่ใช่รักษาแต่ตัว ศ สระอี ตัวล ลิง อันนั้นตัวหนังสือเขียนกันขึ้น สมมุติเรียกว่าหนังสือแล้วก็อ่านไปตามที่เรียกกัน สมมุติตามๆกันมาทั้งนั้น เป็นศีลหรือไม่เป็นศีลตัวหนังสือไม่รู้ แต่จิตที่รู้อยู่นี่รู้ว่าเราสำรวมดีอยู่หรือไม่ หรือเราไม่สำรวม อันนี้เราต้องระลึกกันให้มากๆ สรุปแล้วอย่าให้ขาดสติ เดินทุกก้าวตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งสติทันที ลุกไปตรงไหน เดินไปตรงไหน เข้าห้องน้ำห้องส้วม แม้แต่สะพายบาตร ไปบิณฑบาตก็ให้มีสติทุกขณะ
ไม่เสียหาย ไม่ต้องกังวลว่าพระศาสนาจะล่มสลายดอก ถ้าหากว่าเราไม่มีสติ ไม่สำรวม แม้แต่นุ่งห่มก็ไม่สำรวม ไม่มีสติ นั่นน่ะทางแห่งความล่มสลายในสภาพของเราที่เป็นอยู่ ไม่มีใครต้องการให้เจ้าของล่มสลายซักคนหรอก พากันรักษาให้ดี รักษาพระศาสนาก็คือการรักษาเรา รักษาศีลก็คือการรักษาเรา การปฏิบัติธรรมก็คือการปฏิบัติเรา
สิ่งอื่นไม่ใช่เรา ไม่ต้องสนใจ ตัดออกไปเลย จะเป็นอารมณ์อิฏฐารมณ์ หรือว่าเป็นอารมณ์อนิฏฐารมณ์ ชอบใจ ไม่ชอบใจ ขนาดไหนเพียงไรก็ช่าง เหมือนกับฟองน้ำหรือพยับแดดทั้งนั้น จะไปสนใจหัวมันทำไม หลวงตาท่านพูดบ่อยๆ ที่นี่อากาศดีมาก ยิ่งดึก ยิ่งดึกอากาศยิ่งละเอียด นี่ยังไม่ทันดึก เก้าโมงกว่า สามทุ่มกว่าแล้ว เมื่อคืนก็ถามอยู่เลิกกันเหรอ เลิกแล้ว เลิกกี่ทุ่ม เลิกสามทุ่ม เวลาจิตจริงจังประกอบความพากความเพียร ไม่ต้องทุ่มต้องยาม เวลาอยากจะเลิกฟังธรรมปฏิบัติธรรม ตั้งใจมั่นคงอยู่ในทุ่มยามแท้ (หัวเราะหึๆ) นี่ก็มารตัวหนึ่งนะ มารตัวนี้เค้าครอบหมดโลกธาตุ ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าเค้าดอก มีแต่องค์พระพุทธเจ้าและพระสาวกของพระพุทธเจ้าเท่านั้น อยู่เหนือมาร มารเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้
มาพักกันหลายองค์ ทำสถานที่นี้ให้เป็นสถานที่สงบวิเวกได้มากได้กว้างขาง ถ้าหลายๆองค์หลายๆท่านไม่พยายามทำความสงบ ไม่มีความพยายามที่จะสร้างวิเวก สถานที่นี้จะเป็นสถานที่อาละวาดวุ่นวาย ไม่เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส ไม่เป็นไปเพื่อการกำจัดมารพรรคน้อยใหญ่ ฉันทุกคำมีสติ บริโภคทุกคำมีสติ กินทุกคำให้มีสติ กินเข้าไป เคี้ยวก๊อบๆๆ นึกคายออกมา แล้วกินได้บ่ ร่างกายตั้งแต่ศีรษะมาลงไปหาเท้า เท้าไปหาศีรษะ มันมาจากไหน มาจากอาหารที่เป็นของปฏิกูล แล้วร่างกายของเราๆเนื่องมาจากอาหารทั้งนั้น มันไม่ได้เป็นของวิเศษวิโสอะไรกันนักดอกเด้อ จำเอาไว้ มีแต่ของปฏิกูลทั้งนั้น ไม่ใช่กองมรรค กองผลหรอก
บิณฑบาตให้มีสติ นับตั้งแต่ห่มจีวร คลุมจีวร ซ้อนผ้าสังฆาฏิ มีสติ หยิบบาตรมีสติ อุ้มบาตร หรือจะสะพายบาตรก็ให้มีสติ เดินก็ให้มีสติในการเดิน เดินไปเดินมา เดินไปเดินมา ให้มีสติ จึงเรียกว่าบิณฑบาต ไม่อย่างนั้นก็คือไปหาอยู่หากินอย่างวัวควายนั่นน่ะ (หัวเราะ)
เรียกว่าอยู่ด้วยกันหลายๆองค์ ช่วยกันสร้างความวิเวกให้เกิดขึ้น ได้ยินบ้างมั้ย ได้ยินไหม อยู่ด้วยกันหลายๆองค์ช่วยกันสร้างความวิเวกให้เกิดขึ้นมีขึ้น ความวิเวกนี่จะมารวมเป็นกองเป็นก้อน นั่นคือการรักษาทรงไว้ซึ่งพระศาสนา อยู่ด้วยกันมากๆ มีแต่เรื่องเอร็ดอร่อยที่กิเลสมันบอกให้ นั่นมันก็เป็น…แหม เป็นทางที่จะบอกว่านั่นคือทางเสื่อมโทรม คือทางหายนะของพระศาสนา คือหายนะมาจากนักบวช ไม่ว่าหญิงว่าชาย นักบวชมาจากหัวใจของคนนั้นเอง ไม่ใช่พระศาสนาจะล่มสลายเพราะกาลเวลา ห้าพันปี ห้าแสนปี ห้าล้านปี พระศาสนาไม่ขาดกันหรอก อย่าไปคิดว่าห้าพันปี เดี๋ยวนี้นะในหัวใจของชาวพุทธนี่มันมีซักกี่เปอร์เซ็นต์กันนี่ มั่นคงอยู่ในพระสัทธรรมมีซักกี่เปอร์เซ็นต์ บางคนครึ่งเปอร์เซ็นต์ในร้อย ก็ยังมองไม่เห็นเดี๋ยวเนี้ย มีแต่สกปรก รกรุงรัง กองขยะ
แล้วก็ยังพอใจ พอใจในศาสนาพุทธ อยากให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งชาติ แน่ะ เป็นเพราะอะไร เราๆก็พยายามเราให้เป็นไม่ได้แล้ว จะพยายามทำบ้านทำเมือง ทำเพื่อให้เป็นไปได้มั้ย คือเป็นไปได้มันได้ประโยชน์อะไร ศาสนาไม่ได้อยู่กับคำพูด อยู่กับการกระทำ อยู่กับข้อประพฤติปฏิบัติ อยู่กับหัวใจของคนนี่
จึงว่าอย่างหลายๆเรื่องหลายๆอย่างมาพูดมาจา ปลุกน้อมลูกๆหลานๆให้ตื่นกันนะ อยากปลุกให้ตื่นกันใช่มั้ย ธรรมของพระพุทธเจ้าทุกบาททุกกถาเป็นธรรมปลุกเราให้ตื่นกัน ทำกล่อมให้หลับก็คือกิเลส สบายแล้วๆ สุขหนอๆ อยู่ในกองมูตร กองคูถเต็มไปด้วยของปฏิกูล ก็ยังสุขหนอ ไม่รู้มันจะเกิดมาทำไม โง่เง่าขนาดนั้นวะ ได้ยินบ่ (หัวเราะ) ไม่รู้จะเกิดมาทำไม โง่เง่าขนาดนั้น อย่าไปพูดกับชาวบ้านเค้านะ พูดกับเราเองไม่เสียหายดอก (หัวเราะ) พูดกับเราเองไม่เสียหาย พูดมากไม่ดี มันจะได้ตื่นตัวเป็นผู้ฉลาดกันซักที เอ้า พากันตั้งใจรับพรนะ