๑. พุทธานัง ชิวิตตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ อันตะราโย กาตุง ตถา เม โหตุ
อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญานัง
อนาคตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง
ปัจจุบันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปฏิหะตะญาณัง
อันพระชนม์ชีพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้ซึ่งบุคคลใดไม่อาจกระทำอันตรายได้ฉันใด
ขออันตรายทั้งปวงจงอย่าบังเกิดแก่ข้าพเจ้าเฉกเช่นเดียวกัน
อันว่าญาณที่ไม่มีเครื่องกระทบ ไม่มีการปิดกั้น และไม่มีวันถดถอยของพระพุทธองค์ ย่อมมีทั้งในอดีต, ในอนาคต และในปัจจุบัน พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้มีคุณธรรมสมบูรณ์ ทั้ง 3 ประการ ดังกล่าวแล้วนี้
๒. อิเมหิ ตีหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต
สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง
สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง
สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง
อันว่ากายกรรมทั้งปวงของพระพุทธองค์ ทรงมีญาณเป็นเครื่องนำ (เป็นประธาน) เป็นไปตามซึ่งญาณ
อันว่าวจีกรรมทั้งปวงของพระพุทธองค์ ทรงมีญาณเป็นเครื่องนำ (เป็นประธาน) เป็นไปตามซึ่งญาณ
อันว่ามโนกรรมทั้งปวงของพระพุทธองค์ ทรงมีญาณเป็นเครื่องนำ (เป็นประธาน) เป็นไปตามซึ่งญาณ
พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้มีคุณธรรมสมบูรณ์ ทั้ง 6 ประการ ดังกล่าวแล้วนี้
๓. อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต
นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ นัตถิ ธัมมะเทสนายะ หานิ
นัตถิ วิริยัสสะ หานิ นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ
นัตถิ สมาธิธัสสะ หานิ นัตถิ วิมุตติยา หานิ
ความเสื่อมถอยของพระพุทธประสงค์, ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
ความเสื่อมถอยของการแสดงธรรม ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
ความเสื่อมถอยแห่งความเพียร ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
ความเสื่อมถอยของวิปัสสนาญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
ความเสื่อมถอยของสมาธิ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
ความเสื่อมถอยของความสุขในอรหัตผล ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้มีคุณธรรมสมบูรณ์ ทั้ง 12 ประการ ดังกล่าวแล้วนี้
๔. อิเมหิ ทะวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต
นัตถิ ทะวา นัตถิ ระวา นัตถิ อัปผุฏฏัง นัตถิ เวคายิตัตตัง
นัตถิ พะยาวะฏะมะโน นัตถิ อัปปฏิสังขารุเปกขา
การหัวเราะสรวลเส ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
การพูดพลั้งเผลอโดยขาดสติ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
พระธรรมที่มิได้ประกอบด้วยเณยยธรรม ๕ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
การกระทำอันหุนหันพลันแล่นขาดวิจารณญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
การปล่อยใจเหม่อลอย ว้าวุ่นใจด้วยกิเลส ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
ความไม่เที่ยงธรรม ขาดซึ่งอุเบกขาในเตภูมิสังขาร ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
พระพุทธองค์ ทรงเป็นผู้มีคุณธรรมสมบูรณ์ ทั้ง 18 ประการ ดังกล่าวแล้วนี้
ขอความเคารพนอบน้อม จงมีแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์
๕. อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภะคะวะโต
นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง
นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจริตตัง นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มะโนทุจริตตัง
นัตถิ อตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญาณัง
นัตถิ อนาคตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญานัง นัตถิ ปัจจุบันนัง เส
พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปะฏิหะตะญานัง นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณานุปุพพัง คะมัง ญาณัง นานุปริวัตตัง
อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง ตาณังเลณัง
สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง
อันว่าการประพฤติมิชอบ ที่เรียกว่า กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต ย่อมไม่มีแก่พระตถาคต
อันว่าญานที่มีเครื่องกระทบ ปิดกั้น และถดถอย ทั้งในอดีต ในอนาคต และในปัจจุบัน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่ไม่มีญาณเป็นเครื่องนำ (เป็นประธาน) ไม่เป็นไปตามซึ่งญาณ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
พระธารณะปริตรนี้ ไม่มีเครื่องเทียบ ไม่มีอะไรเสมอเหมือน เป็นที่พึ่งพึงอาศัยของสรรพสัตว์ทั้งหลายผู้กลัวภัยในวัฏสงสาร อัคคัง ประเสริฐ มะหาเตชัง มีเดชมาก
๖. อิมัง อานันทะ ธาระณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ
ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเกนะ ลัคเคยยะ อัคคีนะ
ทะเหยยะ นานาภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก นะ ทะวิหาระโก นะ
ติหาระโก นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง นะ มุฬะหะกัง
มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา
ดูก่อนอานนท์ ท่านจงท่องจำ สอบถาม และสาธยายพระธารณะปริตรนี้เถิด ผู้สวดมนต์นี้เป็นประจำไม่ตายด้วยพิษงู พิษนาค ไม่ตายในน้ำ ในไฟ เป็นผู้พ้นภัยนานา ใครคิดทำร้ายวันเดียวไม่สำเร็จ สองวัน สามวัน สี่วันก็ไม่สำเร็จ ไม่เป็นโรคบ้าใบ้ไร้สติ มนุษย์ แลอมนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถทำร้ายหรือเบียดเบียนได้
๗. ตัง ธาระณัง ปริตตัง ยถา กะตะเม ชาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง
อันว่าพระธารณะปริตรนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ
มีอานุภาพ ดั่งดวงอาทิตย์ 7 ดวงขึ้นพร้อมกันในวันโลกาวินาศ
มีอานุภาพเหมือนตาข่ายเหล็ก คุ้มภัยจาก เทวดา นาค ครุฑ ยักษ์ แลรากษส เป็นต้น
มีอานุภาพประหารศัตรูทั้งหลาย
มีอานุภาพให้พ้นจากกัปทั้ง ๓ คือ โรคันตรกัป สัตถันตรกัป และ ทุพภิกขันตรกัป
มีอานุภาพให้พ้นจากโรคต่างๆ แม้ในยามปฏิสนธิ คือ ไม่เป็นบ้าใบ้ ไม่ตาบอด ไม่หูหนวก
มีอานุภาพระงับอุบัติภัยทั้งปวง
สามารถได้ทรัพย์สมบัติที่ยังไม่ได้
ทรัพย์สมบัติที่ได้แล้วก็เจริญเพิ่มพูนขึ้น
สามารถประหารความมืด เพื่อการเข้าถึงความสว่างได้
๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง สัตตังสะเตหิ สัมมา
สัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว
กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธารระเณ อัลลิ มิลลิ ติลลิ มิลลิ โยรุกเข มหาโยรุกเข ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง
ดูก่อนอานนท์ อันพระธารณะปริตรนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงตรัสไว้ว่า
พึงกระทำความดี, ไม่กระทำความชั่ว
พึงนำมาซึ่งกลิ่นรสอันเป็นธรรม, ไม่พึงนำมาซึ่งธรรมอันไม่บริสุทธิ์
พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจดี, ไม่พึงน้อมนำมาซึ่งน้ำใจชั่ว
พึงสมาคมกับคนดี, ไม่พึงสมาคมกับคนชั่ว
พึงทำกายให้เป็นกายดี, ไม่ทำกายให้เสื่อมด้วยมลทิน
พึงนำมาแต่สิ่งอันเป็นกุศล, ไม่นำมาซึ่งสิ่งอกุศล
พึงหลับฝันแต่สิ่งดี, ไม่พึงหลับฝันร้าย
พึงเห็นแต่นิมิตที่ดี, ไม่พึงเห็นนิมิตร้าย
ต้นไม้ที่ตายแล้วสามารถฟื้นคืนได้, ต้นไม้ที่ยังเป็นอยู่ ก็ทำให้เจริญงอกงามด้วยความจริง
สามารถประหารความมืด เพื่อการเข้าถึงความสว่างได้
๙. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ นะ วุติยา สัมมา
สัมพุทธโกฏีหิ ภาสิตัง ทิฏฐิลา ทัณทิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ดูก่อนอานนท์ อันพระธารณปริตรนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงตรัสไว้ว่า
รู้ความคิดร้ายของผู้อื่น,
แคล้วคลาดจากอาวุธ แลเครื่องประหารทุกชนิด
สามารถทำให้เวทมนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
กำจัดปัดเป่าอันตรายจากโรคต่างๆได้
รอดปลอดภัยจากโรคร้ายแรง
หลุดพ้นจากเครื่องจองจำ พันธนาการได้
ด้วยอำนาจแห่งคำสัจจ์นี้
ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อเทอญ