Skip to content

ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก (แปล)

บทชุมนุมเทวดา

สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกะโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ

คำอธิษฐานอัญเชิญและขอพรเทวดา

ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า คุณบิดา..(ชื่อ-นามสกุล)..คุณมารดา..(ชื่อ-นามสกุล)….คุณครูอุปัชฌาอาจารย์ คุณเทวดาที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และเทพยดาทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน
ข้าพเจ้า..(ชื่อ-นามสกุล)…ขอน้อมเชิญเทพยดาทั้งหลาย โปรดได้มาฟังการไหว้พระสวดมนต์ ของข้าพเจ้า ขอให้อนุโมทนาและประสิทธิประสาทพร ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
ข้าพเจ้า..(ชื่อ-นามสกุล)..ขอขมากรรม หากกรรมใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว พลาดผิดด้วยกาย วาจา ใจ ตั้งแต่อดีตชาติเป็นต้นมาจวบจนวันนี้ ทั้งที่ข้าพเจ้าระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ทั้งที่รู้เท่าถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอทุกๆ พระองค์จงโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขอถวายพระพร ขอทุกๆ พระองค์จงทรงพระเกษมสำราญ จงทรงพระญาณบารมี สูงๆ ยิ่งขึ้นไปด้วยเทอญ ขอพระองค์ทั้งหลาย จงประทานพร จงประทานพร ให้แก่ข้าพเจ้า พ้นจากสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร จงพ้นจากตัวของข้าพเจ้า และขอให้ข้าพเจ้า ได้หูทิพย์ ตาทิพย์ และเจโตปริยญาณ พร้อมทั้งเกิดดวงตาเห็นธรรม ได้สำเร็จมรรคผลนิพพานเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก(แปล)

ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ ได้มาจากต้นฉบับเดิมที่จารไว้บนใบลานเป็นอักษรขอม ซึ่งเปิดกรุครั้งแรกที่เมืองสวรรคโลก มีบันทึกเอาไว้ว่า “ผู้ใดสวดมนต์เป็นประจำทุกเช้า จะป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ได้รอบด้าน ภาวนาพระคาถาอื่นสัก ๑๐๐ ปี ก็ไม่เท่ากับอานิสงค์ ของการสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้เพียงครั้งเดียว ผู้ใดที่สวดครบ ๗ วัน หรือครบอายุปัจจุบันของตัวเอง จะมีโชคลาภ ทำมาค้าขายรุ่งเรือง ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง

๑. อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัง  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  เป็นผู้ไกลจากกิเลส

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สัมมาสัมพุทโธ  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิชชาจะระณะสัมปันโน  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สุคะโต  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว

อิติปิ  โส  ภะคะวา  โลกะวิทู  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  เป็นผู้รู้แจ้งโลก

อะระหันตัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

อะระหันตัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ด้วยเศียรเกล้า

สัมมาสัมพุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

สัมมาสัมพุทธัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบด้วยเศียรเกล้า

วิชชาจะระณะสัมปันนัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

วิชชาจะระณะสัมปันนัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ด้วยเศียรเกล้า

สุคะตัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว  ว่าเป็นที่พึ่ง กำจัดภัยได้จริง

สุคะตัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้วด้วยเศียรเกล้า

โลกะวิทุง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

โลกะวิทุง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก  ด้วยเศียรเกล้า

๒. อิติปิ  โส  ภะคะวา อนุตตะโร  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอนุตตะโร  คือ  ยอดเยี่ยม

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปุริสะทัมมะสาระถิ  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สัตถา  เทวะมะนุสสานัง  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

อิติปิ  โส  ภะคะวา  พุทโธ  วะตะ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตื่นจากกิเลส

อะนุตตะรัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

อะนุตตะรัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม  ด้วยเศียรเกล้า

ปุริสะทัมมะสาระถิง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

ปุริสะทัมมะสาระถิง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ  ด้วยเศียรเกล้า

สัตถารัง  เทวะมะนุสสานัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ว่าเป็นที่กำจัดภัยได้จริง

สัตถารัง  เทวะมะนุสสานัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นศาสนดาของเทวดาและมนุษย์ด้วยเศียรเกล้า

พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า  ขอถึงพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส  ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

พุทธัง  สิระสา  นะมามิ

ข้าพเจ้า  ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลสด้วย้ศียรเกล้า

๓. อิติปิ  โส  ภะคะวา  รูปักขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน  อิติปิ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  รูปขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ  แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ  โส  ภะคะวา  เวทะนากขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน  อิติปิ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  เวทนาขันธ์  เป็นอนิจลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สัญญากขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน  อิติปิ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สัญญาขันธ์  เป็นอนิจจลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สังขารักขันโธ  อะนิจจะลักขะณะปาระมี  จะ  สัมปันโน  อิติปิ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  สังขารขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิญญาณักขันโธ  อะนิจจะลักษณะปาระมี  จะ  สัมปันโน  อิติปิ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น วิญญาณขันธ์  เป็นอนิจจลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

๔. อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปะฐะวีธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ  คือ ดิน

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อาโปธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ  คือน้ำ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  เตโชธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ  คือไฟ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  วาโยธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธรรมที่เป็นธาตุ คือลม

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อากาสะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ อากาศ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิญญาณะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ วิญญาณ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  จักกะวาฬะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ จักรวาล

๕. อิติปิ  โส  ภะคะวา  จาตุมมะหาราชิกาธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือสวรรค์ชั้นจาตุมมหาราช

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ตาวะติงสาธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ยามาธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือสวรรค์ชั้นยามา

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ตุสิตาธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต

อิติปิ  โส  ภะคะวา  นิมมานะระตีธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือสวรรค์ชั้นนิมมานรดี

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัสดี

อิติปิ  โส  ภะคะวา  กามาวะจะระธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในกามาวจรภูมิ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  รูปาวะจะระธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในรูปาวจรภูมิ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะรูปาวะจะระธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  โลกุตตะระธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คืออยู่เหนือโลก หมายถึงไม่ติดอยู่ในโลกอีก

๖. อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปะฐะมะฌานะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปฐมฌาน

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ทุติยะฌานะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ  คือ ทุติยฌาน

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ตะติยะฌานะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ตติยฌาน

อิติปิ  โส  ภะคะวา  จะตุตถะฌานะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ จตุตถฌาน

อิติปิ  โส  ภะคะวา  ปัญจะมะฌานะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปัญจมฌาน

๗. อิติปิ  โส  ภะคะวา  อากาสานัญจายะตะนะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ อากาสานัญจายตนะ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  วิญญาณัญจายะตะนะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือวิญญาณัญจายตนะ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อากิญจัญญายะตะนะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คืออากิญจัญญายตนะ

อิติปิ  โส  ภะคะวา  เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือเนวสัญญานาสัญญายตนะ

๘. อิติปิ  โส  ภะคะวา  โสตาปัตติมัคคะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ  คือพระโสดาปัตติมรรค

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สะกิทาคามิมัคคะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือพระสกิทาคามิมรรค

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะนาคามิมัคคะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิมรรค

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัตตะมัคคะธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือพระอรหัตตมรรค

อิติปิ  โส  ภะคะวา  โสดาปัตติผะละธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติผล

อิติปิ  โส  ภะคะวา  สะกิทามิผะละธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมอันเป็นธาตุ คือพระสกิทาคามิผล

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะนาคามิผะละธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมอันเป็นธาตุ คือ พระอนาคามิผล

อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัตตะผะละธาตุ  สะมาธิญาณะสัมปันโน

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมอันเป็นธาตุ คือ พระอรหัตตผล

๙. กุสะลา  ธัมมา

 ธรรมะฝ่ายกุศล

อิติปิ  โส  ภะคะวา

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น

อะ อา  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ชมภูทีปัสสะ  อิสสะโร

พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอิสระแห่งชมพูทวีป

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมฝ่ายกุศล

นะโม  พุทธายะ

ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโม  ธัมมายะ

ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

นะโม  สังฆายะ

ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

ปัญจะ  พุทธา  นะมามิหัง

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์

อา ปา มะ จุ ปะ

หัวใจพระวินัยปิฎก

ที มะ สัง อัง ขุ

หัวใจพระสุตตันตปิฎก

สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ

หัวใจพระอภิธรรมปิฎก

อุ ปะ สะ ชะ สุ เห ปา สา ยะ โส

( มนต์คาถา )

โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ

หัวใจมรรคสี่ผลสี่นิพพานหนึ่ง

เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว

หัวใจพระเจ้าสิบชาติแสดงการบำเพ็ญบารมีสิบ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ

หัวใจพระพุทธคุณเก้า (นวหรคุณ)

อิ สะวา สุ สุ สะวา อิ

หัวใจพระตรัยรัตนคุณ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

จิตติ  วิอัตถิ

มีนัยวิจิตรพิสดาร

๑๐. อิติปิ  โส  ภะคะวา  อะระหัง

พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส

อะ อา  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

สา โพธิปัญจะ อิสะโร ธัมมา

( มนต์คาถา )

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมฝ่ายกุศล

นันทะวิวังโก

( มนต์คาถา )

อิติ  สัมมาสัมพุทโธ

พระองค์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบแล้วแล

สุ คะ ลา โน  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

จาตุมะหาราชิกา

เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

อิติ  วิชชาจะระณะสัมปันโน

พระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ

อุ อู  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ตาวะติงสา

สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

นันทะปัญจะ สุคะโต  โลกะวิทู

พระพุทธเจ้า ผู้เสด็จไปดีแล้ว  ผู้รู้แจ้งโลก

มะ หา เอ โอ  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ยามา

สวรรค์ชั้นยามา

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

พรหมมาสัททะ

เสียงพรหม

ปัญจะสัตตะ

พระโพธิสัตว์ห้า

สัตตาปาระมี

บารมีของพระโพธิสัตว์

อะนุตตะโร

ยอดเยี่ยม

ยะ มะ กะ ขะ  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ตุสิตา

สวรรค์ชั้นดุสิต

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

ปุ ยะ ปะ กะ  ปุริสะทัมมะสาระถิ

พระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

นิมมานะระติ

สวรรค์ชั้นนิมมานรดี

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

เห ตุ โป วะ  สัตถา  เทวะมะนุสสานัง

พระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

ตะถา  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี

สวรรค์ชั้นปรนิมมิตตวสวัสดี

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

สังขารักขันโธ

สังขารขันธ์

อะนิจจัง  ทุกขัง  อะนัตตา

ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง

รูปักขันโธ  พุทธัสสะ

รูปขันธ์ของพระพุทธเจ้า

ปะ ผะ  ยาวะชีวัง  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

พรหมมา

พรหมโลก

อิสสะโร

เป็นอิสระ

กุสะลา  ธัมมา

ธรรมะฝ่ายกุศล

นัตถิ ปัจจะยา วินะปัญจะ 

(มนต์คาถา)

ภะคะวะตัง  ยาวะนิพพานัง  สะระณัง  คัจฉามิ

ข้าพเจ้า ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

๑๑. นะโม  พุทธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโม  ธัมมัสสะ

ขอนอบน้อมแดพระธรรมเจ้า

นะโม  สังฆัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

พุทธิลา โลกะลา กะระกะนา

( มนต์คาถา )

เอเตนะ  สัจเจนะ  สุวัตถิ  โหนตุ

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

หุลู  หุลู  หุลู  สะวาหายะ ฯ

( มนต์คาถา )

นะโม  พุทธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโม  ธัมมัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

นะโม  สังฆัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

วิตติ  วิตติ  วิตติ  มิตติ  มิตติ  มิตติ  จิตติ  จิตติ  อัตติ  อัตติ  มะยะสุ

( มนต์คาถา )

สุวัตถิ  โหนตุ

ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

หุลู  หุลู  หุลู  สะวาหายะ

( มนต์คาถา )

อินทะสาวัง  มะหาอินทะสาวัง  พรหมมะสาวัง  มะหาพรหมมะสาวัง  จักกะวัตติสาวัง  มะหาจักกะวัตติสาวัง  เทวาสาวัง  มะหาเทวาสาวัง  อิสิสาวัง  มะหาอิสิสาวัง  มุนีสาวัง  มะหามุนีสาวัง  สัปปุริสาวัง 

มะหาสัปปุริสาวัง  พุทธะสาวัง  ปัจเจกะพุทธะสาวัง  อะระหัตตะสาวัง  สัพพะสิทธิ  วิชชาธะรานังสาวัง  สัพพะโลกา  อิริยานังสาวัง

( คาถาพระมหาทิพมนตร์ )

เอเตนะ  สัจเจนะ  สุวัตถิ  โหนตุ ฯ

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

สาวัง คุณัง  วะชะ พะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิ กัมมัง  นิพพานัง โมกขัง คุยหะกัง

ทานัง  สีลัง ปัญญา นิกขัง ปุญญัง  ภาคะยัง ยะสัง ตัปปัง  สุขัง  สิริรูปัง  จะตุวีสะติเสนัง

 ( มนต์คาถา )

เอเตนะ  สัจเจนะ  สุวัตถิ  โหนตุ

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

หุลู  หุลู  หุลู  สะวาหายะ ฯ

( มนต์คาถา )

๑๒.  นะโม  พุทธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง  อะนัตตา  รูปักขันโธ เวทนากขันโธ  สัญญากขันโธ  สังขารักขันโธ  วิญญาณักขันโธ

รูปขันธ์  เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาฌขันธ์  ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตน ของเราจริง

นะโม  อิติปิ  โส  ภะคะวา

ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

นะโม  ธัมมัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา  รูปักขันโธ เวทนากขันโธ  สัญญากขันโธ  สังขารักขันโธ  วิญญาณักขันโธ

รูปขันธ์  เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาณขันธ์  ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตน ของเราจริง

นะโม  สะหวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม

ขอนอบน้อมแด่พระธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

นะโม  สังฆัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา  รูปักขันโธ เวทนากขันโธ  สัญญากขันโธ  สังขารักขันโธ  วิญญาณักขันโธ

รูปขันธ์  เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาฌขันธ์  ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตน ของเราจริง

นะโม  สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ

ขอนอบน้อมแด่พระสังฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว

วา หะ ปะ ริต ตัง

( มนต์คาถา )

นะโม  พุทธายะ

ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

มะ อะ อุ

พระพุทธ  พระธรรม พระสงฆ์

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา

ความไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  มิใช่ตัวตนของเราจริง

ยาวะ  ตัสสะ  หาโยโมนะ

( มนต์คาถา )

อุ อะ มะ

พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา

ความไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  มิใช่ตัวตนของเราจริง

อุ อะ มะ  อาวันทา

ขอกราบไหว้พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์

นะโม  พุทธายะ

ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ    อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ

( มนต์คาถา )

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา

ความไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  มิใช่ตัวตนของเราจริง